น้ำเข้ารถพรมเปียก
ปัญหาที่ต้องเจอเมื่อน้ำท่วมเข้ารถ
ขับรถลุยน้ำ น้ำท่วมน้ำท่อเข้ารถ เหตุการณ์สุดวิสัยที่ใครๆก็ไม่อยากเจอ
ปัญหานี้น่าเห็นใจ และจำเป็นต้องรีบดูแลแก้ไขเร่งด่วน
เพื่อลดปัญหาอื่นๆที่อาจจะตามมา ทั้งกลิ่น เชื้อรา ปัญหาระบบไฟในรถ
ให้เราอ่านให้ฟัง
สถานการณ์ควรหลีกเลี่ยงหน้าฝน
คำแนะนำเพื่อลดโอกาสเจอปัญหาน้ำเข้ารถ
- การใช้เส้นทางที่มีประวัติน้ำท่วม น้ำขังเป็นประจำตอนฝนตกหนัก
- จอดรถในพื้นที่ต่ำ ที่น้ำระบายได้ช้า
- จอดรถใกล้ท่อระบายน้ำ ในพื้นที่เป็นแอ่งมีโอกาสน้ำจากท่อดันขึ้นมาขัง
- หากจอดรถกลางแจ้งช่วงหน้าฝน อย่าลืมเช็คกระจกรถว่าปิดสนิทดี
- ละเลยการตรวจเช็ควัสดุรถ ใต้ท้องรถ ซีลยางขอบกระจก คิ้วหลังคา
💧 น้ำเข้ารถต้องทำยังไง?
หากเจอสถานการณ์น้ำท่วมเข้ารถจนพรมเปียกมาก อย่าเพิ่งตื่นตระหนก! ลองทำตามลำดับขั้นตอนนี้เพื่อจัดการอย่างมีสติและปลอดภัย:
✅ 1. ตรวจสอบประกันรถยนต์ (สำคัญมาก)
- ถ้าคุณทำประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ 2+ ไว้ ให้รีบตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขความคุ้มครอง
- โทรสอบถามบริษัทประกันให้ชัดเจนว่า “กรณีน้ำเข้ารถ” เคลมได้หรือไม่ และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
- อย่าลืม ถ่ายภาพ/วิดีโอความเสียหายไว้เป็นหลักฐานประกอบการเคลม
🚗 2. รีบทำให้รถแห้งและสะอาดโดยเร็ว
- น้ำที่เข้ามา โดยเฉพาะถ้าเป็นน้ำสกปรกจากท่อ อาจพาเชื้อโรคและกลิ่นติดมากับพรม
- ห้ามปล่อยไว้นาน เพราะความชื้นอาจทำให้เกิดกลิ่นอับ เชื้อรา พื้นรถผุ หรือแผ่นซับเสียงใต้พรมยุ่ย
- พรมรถยนต์มีความหนาและติดกับโครงรถ ถ้าไม่ถอดออกมา จะทำให้แห้งได้ยากมาก
📌 ดูจากภาพประกอบ จะเห็นว่าพื้นใต้พรมเป็นแอ่ง มีซอกมุมอับ ความชื้นสะสมง่ายมาก
🚫 3. อย่าเปิดแอร์รถ!
- ถ้าพรมยังเปียก ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด เพราะกลิ่นจะถูกดูดเข้าระบบแอร์ และหมุนเวียนอยู่ภายใน
- จะทำให้แอร์มีกลิ่นติดและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการล้างแอร์ภายหลัง
🧾 4. เอาของสำคัญออกจากรถทันที
- รีบเก็บเอกสารสำคัญ และของใช้ต่างๆ ที่อยู่ในรถออกมา
- แม้น้ำจะยังไม่โดนสิ่งของโดยตรง แต่ความชื้นและกลิ่นอับจะสร้างความเสียหายได้
- ควรนำไปผึ่งในที่อากาศถ่ายเท ไม่วางทิ้งไว้ในรถ
🛠️ 5. เลือกใช้บริการจากร้านที่เชี่ยวชาญ
- หาร้านที่มีบริการ “ถอดพรม ซักพรมรถยนต์” อย่างมืออาชีพ
- จุดสำคัญคือต้องมั่นใจว่า ซักสะอาด ฆ่าเชื้อโรคจริง ไม่ทิ้งกลิ่น และไม่มีเชื้อราตามมา
💡 ข้อควรพิจารณาในการเลือกร้าน:
- ต้องมี ประสบการณ์ และรู้วิธีถอดเบาะ/พรม โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนในรถเสียหาย
- ใช้ น้ำยาซักที่ได้มาตรฐาน ไม่กัดพรม ไม่ฉุน ไม่ทำให้ขึ้นขุย
- วิธีการทำงาน และราคาค่าบริการ จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของร้านแต่ละแห่ง
สรุป:
น้ำเข้ารถไม่ใช่เรื่องเล็ก! การรับมือให้ถูกวิธี ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว อย่าลืมเช็กประกัน รีบทำให้แห้ง และใช้บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อให้รถคุณกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ค่ะ 🚙✨
แนะนำให้เลือกที่ท่านพึงพอใจ สะดวก มั่นใจ สบายใจที่เข้าใช้บริการ เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้ค่ะ
น้ำเข้ารถพรมเปียก
รถน้ำท่วม ทำไงดี
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง และรีบดูแลแก้ไขเมื่อน้ำที่ไม่สะอาดทำให้พรมรถเปียก
🧼 1. ความสะอาดของพรมและภายในห้องโดยสาร
น้ำที่ท่วมเข้ารถมักมาพร้อมความสกปรก ดำคล้ำ และปนเปื้อนเชื้อโรค
การปล่อยให้พรมเปียกคารถนาน ๆ อาจทำให้เชื้อโรคสะสม และวัสดุต่าง ๆ ในรถเสียหายได้
😖 2. กลิ่นไม่พึงประสงค์ติดรถ
กลิ่นเหม็นจากน้ำที่ท่วมรถสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาไม่นาน และที่น่ากลัวกว่าคือ
กลิ่นเหล่านี้สามารถฝังลึกลงในพรม เบาะ และวัสดุต่าง ๆ ภายในรถได้อย่างถาวร
🎥 ในคลิปของทางร้านมีลูกค้าเล่าประสบการณ์จริงที่เจอมากับตัว รับรองว่าใครเจอแบบนี้ไม่อยากชะล่าใจแน่นอนค่ะ
ทำไมพรมรถไม่แห้งเอง เสี่ยงเชื้อรา
***สำคัญมากค่ะ***
🧱 พื้นรถมีโครงสร้างเป็นแอ่ง-บล็อกน้ำขัง
พื้นรถส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแอ่ง เป็นหลุมบล็อกในจุดต่าง ๆ
ซึ่งน้ำสามารถขังอยู่ตามซอกเล็ก ๆ ได้โดยที่เรามองไม่เห็น
แค่เช็ดพื้น หรือเปิดพรมผึ่งไว้ด้านบน จึงไม่สามารถจัดการน้ำขังใต้พรมได้หมด
🧽 บางรุ่นมี “โฟม” ซ่อนอยู่ในบางตำแหน่ง
ยิ่งเพิ่มโอกาสการสะสมของความชื้น เชื้อรา และสนิม
เป็นจุดที่ยากต่อการแห้ง และเข้าถึงได้ยากมาก หากไม่ถอดพรมออกมาทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
🔇 แผ่นซับเสียงใต้พรมก็เป็นอีกจุดอันตราย
ด้านใต้พรมมักจะมี แผ่นซับเสียงหนา ๆ ลักษณะคล้าย “ผ้าห่มสีเทา”
มีความหนามาก และซับน้ำได้ดี (เกินไป)
หากเปียกแล้ว ไม่ได้ถอดออกมา จะทำให้เกิดกลิ่นอับและราขึ้นได้ง่ายมาก
👉 สรุป:
เมื่อน้ำท่วมเข้ารถแล้วพรมเปียก หากน้ำเข้าเยอะ การปล่อยให้แห้งเอง “แทบเป็นไปไม่ได้”
จำเป็นต้อง “ถอดพรมออกมาซักและตากให้แห้งสนิท” เพื่อป้องกันปัญหายืดเยื้อในอนาคต
ซักพรมรถน้ำท่วม
ซักพรมรถยนต์ ที่น้ำเข้ารถ
ที่อัลติเมท บางบอน5 ดูแลคุณอย่างไรบ้าง
(แนะนำ) อธิบายขั้นตอนการทำงานของร้าน
🚗 น้ำเข้ารถ พรมเปียก ต้องทำยังไง?
เมื่อพรมรถเปียกจากน้ำท่วม โดยเฉพาะถ้าเป็น “น้ำจากท่อหรือน้ำสกปรก” สิ่งที่ควรทำทันทีคือ ถอดพรมออกมาซักทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกัน:
- กลิ่นเหม็น กลิ่นอับติดรถ
- การสะสมเชื้อราและแบคทีเรีย
- พื้นรถผุ สนิมขึ้นตามโครงสร้าง
❌ การซับน้ำหรือใช้เครื่องดูดน้ำ “ไม่พอ!”
น้ำที่เข้าไปถึงชั้นล่างสุด มักจะถูกดูดซึมโดยแผ่นซับเสียงหนา ๆ ใต้พรม
เครื่องดูดน้ำทั่วไปไม่สามารถดูดน้ำจากซอกลึกหรือโฟมใต้พื้นได้
หากไม่ถอดพรมออกมา น้ำจะค้างอยู่เป็นวัน ๆ จนเกิดปัญหาตามมา
🔧 บริการถอดพรมซักจาก “อัลติเมท บางบอน 5”
ขั้นตอนแบ่งเป็น 2 วัน เพื่อความสะดวกของลูกค้า
🗓️ DAY 1: ถอดพรม – ลูกค้านำรถกลับได้
- ถอดเบาะ / พรม / ของใช้ในรถ
- ทำความสะอาดพื้นรถ และดูแลกลิ่นเบื้องต้น
- ออกใบรับรถ พร้อมรายละเอียดชิ้นส่วนทั้งหมด
- ลูกค้านำรถกลับไปใช้งานได้ตามปกติ
⏱ ใช้เวลาเฉลี่ย 1–2 ชั่วโมง
🧺 ขั้นตอนระหว่างรอพรมแห้ง (ที่ร้านดูแล)
- แช่น้ำยาฆ่าเชื้อ – ซัก – อบตากแดดให้แห้งสนิท
- หากรถแช่น้ำนาน อาจต้อง ซักซ้ำ
- ใช้เวลารวมประมาณ 3–4 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
✅ ไม่มีค่าบริการเพิ่ม
🎯 ร้านจะติดต่อลูกค้าเมื่อพรมแห้งพร้อมติดตั้ง
🗓️ DAY 2: ติดตั้งพรมกลับเข้ารถ
- ถอดเบาะรถออกอีกครั้ง
- ใส่พรมสะอาดกลับเข้าตำแหน่งเดิม
- ติดตั้งเบาะกลับ
- สปาห้องโดยสาร ส่งมอบรถ
- แนะนำให้ลูกค้า “ตรวจเช็ครถ” ก่อนรับกลับ
⏱ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
💡 หมายเหตุ: ทางร้านจะให้ใบรับรถพร้อมบันทึกรายละเอียดของชิ้นงานทุกชิ้นที่ถอดซัก เพื่อความมั่นใจของลูกค้า
🎉 ราคาโปรโมชั่น
ซักพรมรถน้ำท่วม 2025
🚗 เก๋ง / กระบะ
ปกติ 3,000 บาท
💥 พิเศษเพียง 2,500 บาท
🚙 รถเบาะ 3 ตอน (MPV / SUV)
ปกติ 4,000 บาท
💥 พิเศษเพียง 3,500 บาท
🧼 บริการแถมฟรี!
✅ ฟรี! สปาภายในห้องโดยสาร (มูลค่า 300 บาท)
✅ ฟรี! ซักพรมปูพื้นรถ ที่มากับตัวรถเดิมทุกผืน
📄 ออกใบกำกับภาษี (VAT) ได้
เหมาะกับบริษัท / ประกันภัยเคลมค่าใช้จ่าย
❤️ เราดูแลเต็มที่ทุกคัน
Ultimate Center
ศูนย์ฟื้นฟูรถยนต์ครบวงจร ดูแลโดยช่างผู้ชำนาญ
ติดต่อเรา
น้ำเข้ารถพรมเปียก ปรึกษาก่อนได้ค่ะ
เพื่อความสะดวกของท่านในการรับบริการ
ควรจองคิวก่อนเข้าใช้บริการค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line ID : @ucarcenter
(ช่วงเวลารับสาย 8.00-18.00 น.)
ร้านอยู่ ถนนบางบอน 5 กดดูแผนที่
✅ สิ่งที่คุณจะได้รับบริการ
ในกรณีน้ำเข้ารถพรมเปียก
- ถอดและใส่เบาะกลับ 2 รอบ
- ซักพรม + ฆ่าเชื้อ
- กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
💡 ความมั่นใจที่เรามอบให้คุณ
- ช่างชำนาญการ เป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอน
- ใช้น้ำยาฟอกเบาะเกรดดี ไม่ทำลายวัสดุ
- ใส่ใจทุกรายละเอียด ช่างใหญ่ลงมือเอง
- ราคาโปรโมชั่นคุ้มค่า ทั้งน้ำยาและขั้นตอน
- ดูแลปัญหาครบวงจร ทั้งกลิ่นอับ ความชื้น และเชื้อรา
🔧 จากเหตุการณ์ น้ำเข้ารถพรมเปียก ร้านเรายังมีบริการอื่น เช่น
ฟอกเบาะรถ / ล้างแอร์ไม่ถอดตู้
⚠️ เงื่อนไขการให้บริการ
- ระยะเวลาขึ้นอยู่กับ รุ่นรถและจำนวนแถวเบาะ
- ขั้นตอนมีหลายอย่าง เช่น รื้อเบาะ / ถอดพรม / ฆ่าเชื้อ / ซัก / ตาก / ติดตั้งกลับ
- งานละเอียด ต้องใช้เวลา เราไม่เร่งงานเพื่อคุณภาพงาน
- พรมรถด้านล่างหนา ต้อง ตากให้แห้งจริงจัง
🌀 ในช่วงฝนตก อาจใช้เวลาเพิ่มขึ้น แต่คุณยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ
🙏 ขอความร่วมมือ
- ติดตั้งพรมคืนภายใน 30 วัน
- หากไม่ประสานงานหรือขาดการติดต่อ ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการจัดการตามสมควร
ปัญหาที่สร้างความตกใจให้มากที่สุด คือ เมื่อถอดพรมพื้นรถออกมาแล้วพบว่าพื้นรถเป็นสนิม และยังผุจนทะลุค่ะ
ร้านอัลติเมท เซ็นเตอร์ (อัลติเมท บางบอน 5)
บริการดูแล ฟื้นฟูรถยนต์ครบวงจร โดยช่างชำนาญการ
🚘 คำแนะนำในสถานการณ์ฉุกเฉิน
หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วม
เคล็ดลับง่ายๆ ที่อาจช่วยคุณได้:
- อย่าตื่นตระหนก ประเมินระดับน้ำจากฟุตบาท
- เลี่ยงได้ให้เลี่ยง ถ้าไม่ได้ ให้ใช้เลนที่สูงกว่า
- ปิดแอร์ ขับช้าๆ ใช้เกียร์ต่ำ
- พ้นน้ำแล้ว ย้ำเบรกเบาๆ ไล่น้ำ
- อย่าเพิ่งดับเครื่อง สตาร์ททิ้งไว้ช่วยไล่ความชื้น
🔥 อันตรายที่ควรระวัง
- ระบบไฟช็อต
- พื้นรถขึ้นสนิม หรือผุ
- กลิ่นอับ เชื้อราในห้องโดยสารและช่องแอร์
📸
รื้อพรมออกมาพบว่าพื้นรถเป็นสนิมจนผุทะลุ
🛠️ ประสบการณ์ตรงจากงานจริง
เคยมีเคสที่ลูกค้าซักพรมจากที่อื่นแล้ว ยังมีกลิ่นอับ หรือแสบจมูกจากน้ำยาแรงๆ
สุดท้ายต้องกลับมาให้เราช่วยแก้ใหม่ เสียทั้งเวลาและเงินเพิ่ม
👉 น้ำยาที่ใช้ + วิธีการทำงาน = ความแตกต่าง
ร้านเราซักจริง ฆ่าเชื้อจริง ไม่เน้นแค่ “ทำให้แห้งไว” แล้วจบ
📌 สรุปสิ่งที่เราอยากบอก
- หากรถคุณน้ำเข้า อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ
- หาข้อมูล ถามวิธีการทำงานให้ชัด
- อย่าลืมว่า พรมเดิมเข้ารูปรถดีที่สุด ถ้ายังใช้งานได้ก็อย่าเพิ่งเปลี่ยน
- หากต้องการปรึกษาเคสเฉพาะของคุณ เรายินดีดูแลค่ะ
ทำไมถึงควรซักพรมซักเบาะรถ กดอ่านต่อ